เมื่อสมัคร Gmail คุณจะได้รับบัญชีอีเมล Gmail ซึ่งเป็นบัญชีอีเมลฟรีที่ให้บริการโดย Google ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถส่งและรับอีเมลได้อย่างง่ายดายและมีความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงบริการอื่นๆ ของ Google ได้ เช่น Google Drive, Google Docs, Google Calendar, Google Meet และอื่นๆ อีกมากมายโดยไม่ต้องมีบัญชีผู้ใช้งานสำหรับแต่ละบริการ ผ่านบริการของ Gmail นั้นเอง
สมัคร Gmail แล้วได้อะไร โดยปกติแล้ว เรามักจะต้องใช้ Email เพื่อรับข้อมูล เช่น ใบแจ้งหนี้ การตอบกลับจากส่วนงานต่างๆ หรือการติดต่อกับเพื่อน และคนรู้จัก โดย Gmail คือบริการ Email ที่มีความปลอดภัยสูง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้ใช้งาน ดังนั้น เหตุผลที่จำเป็นต้องมี Gmail คือ เพื่อใช้สื่อสารผ่าน Email ให้มีความปลอดภัยและใช้ง่าย โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องส่งและรับอีเมลในปริมาณมากเป็นประจำ
วิธีสมัคร Gmail แบบง่ายๆ ภาษาไทย (แก้ไขแล้ว 23 /3/2523)
ขั้นตอนการสมัคร Gmail ภาษาไทย
1. เข้าสู่เว็บไซต์ของ Gmail โดยใช้เว็บบราวเซอร์ที่คุณชื่นชอบ เช่น Google Chrome, Mozilla Firefox, Internet Explorer หรือ Safari
2. คลิกที่ปุ่ม "สร้างบัญชี" ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ
3. กรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น ชื่อ, สกุล, วันเกิด, เพศ, และชื่อผู้ใช้งาน (username) ที่คุณต้องการใช้
4. กรอกรหัสผ่าน และยืนยันรหัสผ่านอีกครั้ง
5. เลือกคำถามความปลอดภัย และกรอกคำตอบของคุณ
6. กรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือและที่อยู่อีเมลที่มีอยู่แล้ว (หากมี)
7. คลิก "ถัดไป" เพื่อไปยังหน้าต่อไป
8. ใส่รหัสยืนยันที่ปรากฎบนหน้าจอ แล้วคลิก "สร้างบัญชี"
9. ทำการยืนยันรหัสผ่าน ที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณกับ Google
10. เมื่อคุณได้ทำการยืนยันทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คุณก็พร้อมใช้งานบัญชี Gmail ของคุณแล้ว
หมายเหตุ: ขั้นตอนที่ 5 เป็นขั้นตอนสำหรับการค้นหา หรือ รีเซ็ต รหัสผ่านในกรณีที่คุณลืมหรือเปลี่ยนรหัสผ่านหลังจากสมัครบัญชีแล้ว อย่างไรก็ตาม การกรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือและที่อยู่อีเมลที่มีอยู่แล้วจะช่วยให้คุณสามารถกู้คืนบัญชีของคุณได้ง่ายๆ ในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่าน
สมัคร Gmail ใช้งานกับแอพอะไรได้บ้าง
การสมัคร Gmail สามารถใช้งานกับแอพพลิเคชันได้หลากหลายของ Google มีบริการหลากหลายกว่า Gmail เพียงอย่างเดียว เช่น Google Drive, Google Calendar, Google Maps, Google Translate, Google Classroom, Google Meet, Google Docs, Google Sheets, Google Slides, Google Forms, Google Photos เป็นต้น โดยสามารถใช้ Google ในการเข้าถึงและใช้บริการต่างๆผ่านบัญชี Gmail นั่นเอง และอื่น ๆ ที่มีผู้ใช้งานมากถึงหลายล้านคนทั่วโลก.
1. Gmail App: เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดย Google เองซึ่งให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับอีเมลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เสริมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การจัดการที่ตรงไปตรงมาของกล่องจดหมายสำหรับใหม่, การตั้งค่าบัญชีอีเมลเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์หลักอื่นๆ และอีกมากมาย
2. Google Drive: เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับบริการการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ ให้ผู้ใช้สามารถสร้างเอกสารออนไลน์ แชร์เอกสารและทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น การเข้าถึงเอกสารได้ทุกที่ทุกเวลากับเทคโนโลยีของบริการคลาวด์ เป็นต้น
3. Google Calendar: เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการเข้าไปดูปฏิทินและการจัดการประชุมที่คุณมีผู้ร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เช่นการเพิ่มกิจกรรมและการแชร์กิจกรรมในปฏิทินของคุณกับผู้อื่นและการนัดหมายเวลาเพื่อเรียนรู้ตัวอย่างการตั้งค่าคุณภาพชีวิต
4. Google Translate: เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาโดย Google และใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยแปลภาษาให้เข้าใจง่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถแปลคำหรือประโยคได้ในหลายภาษาโดยที่ไม่ต้องเข้าใจภาษาของผู้พูดต้นฉบับ
5. Google Maps: เป็นแอปพลิเคชันจัดการอย่างง่ายดายและเข้าใจง่าย ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสถานที่ต่างๆ, วิ่ง และ ขับรถ อย่างเร็วทันใจ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เช่นการบอกทิศทางให้ผู้ใช้ การแบ่งปันที่อยู่ของผู้ใช้กับผู้อื่นและการสร้างเส้นทางค้นหาที่แนะนำอื่นๆ
6. Google Play: เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ในการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ สำหรับ Android ของ Google ทั้งฟรีและเสียเงิน ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาแอปพลิเคชันตามความต้องการได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เช่นการจัดการแอปพลิเคชันของคุณ, การอัพเดทแอปพลิเคชันหรือการลบแอปพลิเคชันออกจากอุปกรณ์ของคุณได้อย่างง่ายดาย
การสมัคร gmail ไม่ได้ เกิดจากอะไร
ปัญหาการสมัครGmail ไม่สำเร็จแก้ไขอย่างไรให้ผ่าน มาดูเหตุผลที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องดังนี้
1. กรอกข้อมูลไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
2. มีผู้ใช้งาน gmail อยู่แล้ว จึงไม่สามารถใช้อีเมล์นี้ได้
3. โดเมนของอีเมล์ไม่ถูกต้อง
4. ระบบ gmail ขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนั้น
5. ผู้ใช้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนหรือไม่สามารถให้ข้อมูลการยืนยันตัวตนได้ถูกต้อง
การแก้ไขปัญหาการสมัคร gmail ไม่ได้ ต้องตรวจสอบข้อมูลที่กรอกให้ถูกต้องและครบถ้วน รวมถึงตรวจสอบชื่อ gmail และโดเมน มีผู้ใช้งานอยู่แล้วหรือไม่ และอีกด้วย พร้อมทั้งดูว่าระบบ gmail ทำงานได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ ควรจะให้การยืนยันตัวตนด้วยช่องทางที่ถูกต้องเพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้งาน gmail อีกด้วย
เปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail แก้ไขรหัสผ่าน เข้าไปที่ไหน ทำอย่างไรบ้าง
เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านในบัญชี Gmail ของคุณ กรุณาดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:
1. ไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Gmail (https://www.gmail.com/) และลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
2. คลิกที่ไอคอนรูปหัวข้อความ ที่อยู่หน้าด้านบนขวาของหน้าจอ
3. เลือก Settings (การตั้งค่า) จากเมนูที่แสดง
4. ไปที่แท็บ Accounts and Import (บัญชีและนำเข้า) ด้านบน
5. คลิก Change password (เปลี่ยนรหัสผ่าน) ที่แถบ Change account settings (เปลี่ยนการตั้งค่าบัญชี)
6. ระบุรหัสผ่านปัจจุบันของคุณ
7. กรอกรหัสผ่านใหม่ที่คุณต้องการใช้
8. ยืนยันรหัสผ่านใหม่อีกครั้ง
9. คลิกที่ Change Password (เปลี่ยนรหัสผ่าน) เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
หลังจากเปลี่ยนรหัสผ่านแล้ว คุณสามารถเข้าสู่ระบบใช้งาน Gmail ด้วยรหัสผ่านใหม่ของคุณได้ทันทีแล้ว
จดจำ และบันทึกกันลืม ACCOUNTS.GOOGLE.COM ไว้ด้วย
เปลี่ยนรหัสผ่าน gmail
ทำไม่เราต้องเปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail เมื่อเรารู้สึกไม่มั่นใจ ความปลอดภัย ลืมรหัสผ่าน เปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ใหม่ โทรศัพท์หายจำเป็นต้องเปลี่ยน เป็นเรื่องสำคัญเพราะอะไร
1. ความปลอดภัย: เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการแฮกบัญชี Gmail ของคุณ โดยไม่ว่าจะมีคนรู้รหัสผ่านเดิมของคุณหรือไม่ก็ตาม
2. การป้องกันการชั่วช้าในการเปิดบัญชี: การเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้บัญชี Gmail ของคุณถูกปิดใช้งานระยะเวลานาน
3. การแก้ไขการลืมรหัสผ่าน: ถ้าคุณลืมรหัสผ่าน gmail ของคุณและต้องการเข้าใช้งานบัญชีอีกครั้ง การเปลี่ยนรหัสผ่านจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใช้งานบัญชี Gmail ของคุณได้แบบรวดเร็ว
4. การป้องกันการฉ้อโกงอีเมล์: การเปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail ของคุณจะช่วยให้คุณป้องกันการหลอกลวงจากอีเมล์ที่ปลอมเพราะคนที่ฉ้อโกงอาจใช้ข้อมูลผู้ใช้และรหัสผ่านเดิมของคุณเพื่อโจมตีบัญชี Gmail ของคุณ
5. การป้องกันการแชร์บัญชี: การเปลี่ยนรหัสผ่านจะช่วยลดความเสี่ยงในการแชร์บัญชี Gmail ของคุณกับผู้อื่น โดยอาจช่วยป้องกันการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคุณแก่บุคคลที่ไม่ไว้ใจได้และแก้ไขการใช้งานผิดกฎหมายอื่น ๆ
ย้ายอีเมล์ Gmail จากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ ทำอย่างไร
สามารถย้าย Gmail จากเครื่องโทรศัพท์เก่าไปยังเครื่องโทรศัพท์ใหม่โดยติดตามขั้นตอนดังนี้:
1. เปิดแอป Gmail บนเครื่องโทรศัพท์เก่าของคุณ
2. คลิกที่ไอคอนเมนู (บริเวณมุมบนซ้ายของหน้าจอ) แล้วเลือก "การตั้งค่า"
3. เลือกบัญชี Gmail ของคุณ
4. คลิกที่ "การสำรองข้อมูล" จากนั้นเลือก "สำรองข้อมูลเดี๋ยวนี้" เพื่อสร้างไฟล์สำรองข้อมูลของคุณ
5. เปิดแอป Gmail บนเครื่องโทรศัพท์ใหม่ของคุณ
6. ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบบัญชี Gmail ของคุณ
7. ไปที่ "การตั้งค่า" จากนั้นเลือก "การนำเข้าจากอีเมลอื่น" และเลือก Gmail
8. ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบของบัญชี Gmail เดิมของคุณและติดตามขั้นตอนในหน้าจอเพื่อเชื่อมต่อ Gmail เก่าของคุณกับเครื่องโทรศัพท์ใหม่ของคุณ
9. ดำเนินการตามคำแนะนำในหน้าจอเพื่อนำเข้าที่อยู่อีเมลของคุณและตั้งค่าแอพ Gmail ให้พร้อมใช้งาน
การย้าย Gmail เป็นเรื่องง่ายและไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเพื่อเรียนรู้วิธีดำเนินการ ด้วยขั้นตอนที่แสนง่ายดังนี้ คุณสามารถย้าย Gmail ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น