วิธีปิิด Facebook
วิธีปิดเฟสบุ๊คของคุณขึ้นอยู่กับวิธีเข้าใช้งานของคุณ แต่สำหรับวิธีการปิดเฟสบุ๊คทั่วไปสามารถทำได้ตามขั้นตอนนี้:
1. เข้าสู่ระบบบัญชี Facebook ของคุณ
2. คลิกไอคอนเมนู (เป็นสัญลักษณ์ 3 ขีด) ที่มุมขวาบนของหน้าจอ
3. เลือก "การตั้งค่า" จากเมนูตั้งค่าที่แสดง
4. เลือก "บัญชี" จากเมนูด้านซ้ายของหน้าต่างการตั้งค่า
5. คลิก "ปิดบัญชี" ที่อยู่ด้านล่างสุดของหน้าจอ
6. อ่านข้อความและคลิก "ดำเนินการต่อ"
7. เลือกเหตุผลที่ต้องการปิดบัญชีและคลิก "ดำเนินการต่อ" อีกครั้ง
8. กรอกรหัสผ่านของคุณและคลิก "ดำเนินการต่อ" อีกครั้ง
9. คลิก "ปิดบัญชีของฉัน"
หลังจากคุณทำตามขั้นตอนดังกล่าว บัญชี Facebook ของคุณจะถูกปิดลงและจะไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณโพสต์หรือภาพถ่ายหรือซื่อสัตย์ของคุณทั้งหมด จึงจำเป็นต้องระมัดระวังในการปิดบัญชีและต้องยืนยันเหตุผลให้แน่ชัด และพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะดำเนินการปิดบัญชี
เปิดใช้งาน Facebook
1. เปิดเว็บไซต์ www.facebook.com
2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ในหน้าสมัครสมาชิก Facebook
3. กดปุ่ม "สมัครสมาชิก"
4. แนะนำให้ยืนยันอีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ Facebook เชื่อมต่อได้กับผู้ใช้งาน
5. ตั้งค่าและกำหนดโปรไฟล์ของคุณ
6. เชิญเพื่อนของคุณใน Facebook หรือค้นหาเพื่อนเพิ่มเติม
7. เริ่มใช้งาน Facebook ได้ทันที.
Facebook คืออะไร
เว็บไซต์สังคมออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้สร้างโพสต์ แชร์ภาพ วิดีโอ และเชื่อมต่อกับเพื่อนและคนอื่นๆในทั่วโลก มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นในปี 2004 โดยมาร์กซักเกอร์เบอร์กในช่วงเวลาที่เขาเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปัจจุบัน Facebook เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ให้ความรู้สึกถึงความสัมพันธ์ร่วมกันในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งช่วยให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการไปพบกันดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ปิด Facebook เพราะโดนแฮ็ก วิธีแก้ไข
หากคุณถูกแฮ็ก Facebook คุณควรทำตามขั้นตอนดังนี้:
1. เปลี่ยนรหัสผ่านทันที: ให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้ Facebook ของคุณและอย่าให้ใครเข้าถึงบัญชีของคุณได้
2. รีวิวการเชื่อมต่อ: คุณต้องตรวจสอบสิ่งที่เชื่อมต่อกับบัญชี Facebook ของคุณอยู่ตลอดเวลา รวมถึงแอปพลิเคชันที่คุณอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลของคุณ
3. แจ้ง Facebook: คุณควรแจ้ง Facebook เกี่ยวกับการแฮ็กและขอให้เราป้องกันผู้ใช้บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้
4. ปรับแต่งความปลอดภัย: คุณควรดำเนินการปรับแต่งความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจมตีอื่นๆ เช่น การใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและตั้งค่าการตรวจสอบเข้าสู่ระบบสองชั้น
5. รักษาความระมัดระวังด้วยความรอบคอบ: คุณควรประเมินภัยคุกคามและรักษาความระมัดระวังด้วยความรอบคอบโดยสม่ำเสมอ เช่น ไม่เปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน หรือส่งลิงค์ที่ไม่ควรจะส่งไปยังคนที่คุณไม่รู้จักอย่างมั่นใจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น